สภาพอากาศที่ดี เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เมืองนั้น ๆ น่าอยู่ เพราะไม่เพียงแค่ทำให้บ้านเมืองสวยงามเกิดทัศนียภาพที่ดีเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจของผู้คนที่อยู่อาศัยในพื้นที่อีกด้วย ซึ่งต่างก็มีหลากหลายประเทศในโลก ที่มีสภาพอากาศดี ๆ ให้ได้สัมผัสกันมากมาย โดยวันนี้จะขอหยิบยก 10 ประเทศที่อากาศดีที่สุดในโลก มาฝากทุกคนกันค่ะ ว่าแต่ จะมีประเทศไหนบ้าง และจะเป็นประเทศที่อากาศดีขนาดไหน ตามไปดูพร้อมกันเลยค่ะ!
แนะนำ 10 ประเทศที่อากาศดีที่สุดในโลก
1. สาธารณรัฐมอลตา
มอลตา อาจเป็นประเทศที่ไม่ค่อยคุ้นเคยหรือแทบไม่เคยนึกถึง ซึ่งสาธารณรัฐมอลตาเป็นประเทศหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตอนใต้ของยุโรป โดยอยู่ห่างจากเกาะซิซิลีของประเทศอิตาลีราว 60 ไมล์ (97 ก.ม.) สภาพอากาศที่มอลตาถือว่าอากาศดีมากเมื่อเทียบกับประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป คือ มีอุณหภูมิเฉลี่ย 21 องศาเซลเซียสในเวลากลางวัน มีแสงแดดเฉลี่ยวันละ 5.2 ช.ม. ไม่เว้นแม้กระทั่งในเดือนธันวาคม ขณะที่หลายประเทศในแถบยุโรปกำลังมีหิมะตก หนักและต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ แต่มอลตากลับแทบไม่เคยได้สัมผัสหิมะเลย อย่างไรก็ตาม มอลตาอาจมีฝนตกหนักบ้างบางช่วง แต่มักเกิดขึ้นเพียงชั่วระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
2. สาธารณรัฐเอกวาดอร์
เอกวาดอร์ อยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาใต้ โดยตั้งอยู่ในบริเวณเส้นศูนย์สูตร พรมแดนทางตอนเหนือจรดโคลัมเบีย ทางตะวันออกและทางใต้ติดกับประเทศเปรู และมีชายฝั่งทางตะวันตกติดมหาสมุทรแปซิฟิก ด้วยความที่ตั้งอยู่บริเวณเส้น ศูนย์สูตร เอกวาดอร์ (ทั้งประเทศ) จึงได้รับแสงแดดแบบเต็มๆ ถึง 12 ช.ม. ต่อวัน และ 365 วันต่อปี แต่เนื่องจากเอกวาดอร์มีสภาพภูมิประเทศที่แตกต่างกัน 3 ลักษณะ กล่าวคือประกอบด้วย พื้นที่ ๆ เป็นภูเขา ป่าฝน และพื้นที่แถบชายฝั่งทะเลแปซิฟิก ดังนั้นในแต่ละพื้นที่จึงมีสภาพอากาศที่แตกต่างกัน
3. สาธารณรัฐเม็กซิโก
ประเทศเม็กซิโก ถือเป็นประเทศที่มีสภาพอากาศที่หลากหลาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสูงของพื้นที่ กระแสลม และกระแสน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิก บริเวณชายฝั่งของเม็กซิโกมีภูมิอากาศแบบเขตร้อน ส่วนพื้นที่บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 900 เมตรขึ้นไป จะมีสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็น และทางตอนเหนือของประเทศกลับแทบไม่มีฝนตกเลยตลอดทั้งปี และแน่นอนว่าทำให้ที่นี่มีเป็นประเทศที่มีอากาศดีไม่แพ้ประเทศไหนเลยค่ะ
4. สาธารณรัฐโคลัมเบีย
โคลัมเบีย เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร สภาพอากาศโดยทั่วไปจึงมีลักษณะร้อนชื้น และมีอุณหภูมิคงที่ตลอดทั้งปี ซึ่งโคลัมเบียจะเริ่มตั้งแต่ร้อนมากบนพื้นที่ระดับน้ำทะเล และจะค่อย ๆ มีอุณหภูมิต่ำลงบนพื้นที่ที่อยู่สูงขึ้นไป โดยชายฝั่งทะเลแคริบเบียนและแปซิฟิก จะมีอุณหภูมิและความชื้นสูงตลอดทั้งปี ส่วนพื้นที่บนภูเขาอากาศจะเย็นลงโดยมี ลม ระดับความสูง และลักษณะภูมิประเทศเป็นตัวแปรที่สำคัญนั่นเอง
5. ประเทศออสเตรเลีย
เป็นอีกหนึ่งประเทศที่อากาศดีมากเลยค่ะ สำหรับประเทศออสเตรเลีย ซึ่งออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีสภาพอากาศที่หลากหลาย แต่เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเป็นทะเลทรายที่แห้งแล้งและทุรกันดาร พื้นที่ราว 40% จึงถูกปกคลุมด้วยเนินทราย จะมีเพียงดินแดนทางตอนใต้ด้านตะวันออกและตะวันตกเท่านั้นที่อากาศเย็น และมีผืนดินค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ โดยในช่วงฤดูร้อน (ธ.ค.-มี.ค.) จะมีอุณหภูมิเฉลี่ย 29 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงฤดูหนาว (มิ.ย.-ส.ค.) อุณหภูมิเฉลี่ยที่ 13 องศาเซลเซียส
6. ประเทศอุรุกวัย
อุรุกวัย เป็นประเทศเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปอเมริกาใต้ ในส่วนของสภาพอากาศ อุรุกวัยจะมีสภาพอากาศแบบกึ่งร้อน และชื้นในบางพื้นที่ อีกทั้งยังมีฝนตกบ้างประปราย อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศของอุรุกวัยในแต่ละพื้นที่จะไม่แตกต่างกันมากนัก และเนื่องจากประเทศนี้ไม่มีภูเขาจึงทำให้มีกระแสลมไหลเวียนมาจากภูมิภาคอื่น ๆ และที่สำคัญเลยคือ อุรุกวัย ไม่มีหิมะ (แต่เคยมีหิมะตกแค่ 2 ครั้ง) ไม่เคยเกิดเฮอร์ริเคน สึนามิ แผ่นดินไหว และไม่มีสภาพอากาศที่หนาวจัด จึงสามารถเดินทางไปเยือนได้ตลอดเวลา แต่ขอแนะนำว่าควรไปช่วงเดือนกันยายน-เมษายน เพราะจะเป็นช่วงที่มีอากาศดีที่สุด
7. สาธารณรัฐอาร์เจนตินา
อาร์เจนตินา เป็นหนึ่งในประเทศในทวีปอเมริกาใต้ หรือ ลาตินอเมริกา และเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีสภาพอากาศหลากหลาย และแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ เพราะมีทั้งเทือกเขาแอนดีส ที่ทอดไปตามแนวความสูงของทั้งประเทศ ทำให้ทางตอนใต้ของประเทศจะมีสภาพอากาศหนาวเย็นมาก ๆ และเป็นน้ำแข็งแทบตลอดทั้งปี ในขณะที่ ตอนเหนือของประเทศจะมีลักษณะอากาศแบบกึ่งร้อน ขณะที่ตอนกลางอากาศจะร้อนชื้น
8. สาธารณรัฐแอฟริกาใต้
แอฟริกาใต้เป็นอีกประเทศที่มีสภาพภูมิอากาศหลากหลาย ตั้งแต่ร้อนชื้นแบบเมดิเตอเรเนียนไปจนถึงอากาศหนาวเย็น และสภาพอากาศแบบทะเลทราย พื้นที่ส่วนใหญ่จะมีอากาศแบบอบอุ่น แดดร้อนในตอนกลางวัน อากาศเย็นในยามค่ำคืนค่ะ เรียกได้ว่า เป็นภูมิอากาศในฝันของประเทศเมืองร้อนอย่างบ้านเรามากเลยทีเดียว ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ทั้งน่าอยู่ ทั้งอากาศดีมาก ๆ เลย สำหรับแอฟริกาใต้
9. สาธารณรัฐอิตาลี
อิตาลี ถือเป็นอีกประเทศหนึ่งในแถบยุโรปที่มีอากาศที่ดีมาก ๆ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่าประเทศอิตาลีนั้นตั้งอยู่บนคาบสมุทรอิตาลีที่ถูกล้อมรอบด้วยทะเลในทุก ๆ ด้าน ยกเว้นทางเหนือที่ติดกับประเทศฝรั่งเศส จึงทำให้อิตาลีถือเป็นอีกหนึ่งประเทศในแถบยุโรปที่มีอากาศดี อีกทั้งทางตอนเหนือของอิตาลียังมีทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่มากมาย เช่น ทะเลสาบการ์ดา โกโม มัจโจเร และทะเลสาบอีเซโอ อีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม อิตาลี จะมีลักษณะอากาศที่หลากหลายและแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในแต่ละพื้นที่ โดยในช่วงฤดูหนาวที่บริเวณอิตาเลียน แอลป์ส อากาศจะหนาวเย็น ท้องฟ้าปลอดโปร่ง และมีหิมะตก ในขณะที่มิลานมักมีหมอกหนา ส่วนที่โป วัลเลย์ อากาศจะหนาวและชื้น แต่โดยทั่วไปในช่วงฤดูหนาวที่อิตาลีมักมีหมอกลงหนาใน แถบภาคกลางและภาคเหนือของประเทศ แต่บริเวณที่มีอากาศในช่วงฤดูหนาวดีที่สุดคือ แถบชายฝั่งอามัลฟี หรือที่เรียกว่า “อิตาเลี่ยน ริเวียร่า” รวมทั้งที่หมู่เกาะซิซิลีและซาร์ดิเนีย เพราะบริเวณดังกล่าวอากาศจะไม่หนาวมาก และไม่มีฝนตกหนัก
10. สาธารณรัฐฝรั่งเศส
ฝรั่งเศส ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่อากาศดีมาก ๆ เลยค่ะ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีอากาศเย็น แต่ในแต่ละภูมิภาคก็มีสภาพอากาศที่แตกต่างกันไป อย่างเช่น กรุงปารีส นั้นจะมีสภาพอากาศค่อนข้างเย็น และมักมีฝนตก ในช่วงฤดูร้อนก็จะค่อนข้างร้อนเลยทีเดียว แต่ถ้าเป็นเมืองที่อยู่บริเวณเทือกเขาแอลป์ ก็จะมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี หรือ แคว้นโพรวองซ์ ที่จะมีแสงแดดอบอุ่น และไม่หนาวจัดในฤดูหนาว ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ทั้งอากาศดี ทั้งน่าอยู่เลยทีเดียว
และทั้งหมดนี้คือประเทศที่อากาศดีที่สุดในโลกทั้ง 10 ประเทศ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ค่ะ แต่ละประเทศเรียกได้ว่าเป็นประทศที่มีภูมิอากาศที่ดีมากเลยจริง ๆ ซึ่งอากาศที่ดีนั้น ไม่เพียงแค่ทำให้บ้านเมืองสวยงามเกิดทัศนียภาพที่ดีเท่านั้นนะคะ แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพ ของคนในพื้นที่อีกด้วย ใครที่อยากลองไปเที่ยวสถานที่ ที่อากาศดี ๆ แบบนี้ สามารถตามไปเที่ยวกันได้นะคะ รับรองได้เลยว่าประเทศที่เราได้นำมาฝากในข้างต้น ทั้งน่าอยู่และอากาศดีมากอย่างแน่นอนค่ะ
บทความที่น่าสนใจกับ เคล็ดลับความสำเร็จในการเล่นสล็อต เล่นยังไงให้ได้เงิน และ 8 กีฬาสุดฮิต ที่ควรฝึกให้ลูกเล่นตั้งแต่ยังเด็ก
